DEMO advanced physics set: Diffraction and interference on the profile bench
ชุดทดลองศึกษาการเลี้ยวเบนและการแทรกสอดของแสง สำหรับครูผู้สอน
DEMO advanced physics set: Diffraction and interference on the profile bench
Article no. 15565-88
ฟังก์ชั่นและการใช้งาน
ชุดสาธิตการทดลองหน้าห้องเรียนนี้ประกอบด้วยการทดลอง 7 การทดลองดังต่อไปนี้ :
- การเลี้ยวเบนที่ขอบ ช่องว่าง ช่องสลิตคู่ สลิตเดี่ยว และรูเข็ม
- กฎของมาลุส (Malus’ Law)
- ไมเคิลสันอินเตอร์เฟียโรมิเตอร์ (Michelson interferometer)
- ศึกษษความยาวคลื่นของปรากฏการณ์การเลี้ยวเบน
การเลี้ยวเบนและการแทรกสอดของแสงเป็นปรากฏการณ์ทางทัศนศาสตร์ที่เกิดจากคุณสมบัติของคลื่นของแสง โดยแสงจะเลี้ยวเบนเมื่อผ่านสิ่งกีดขวางที่มีขนาดเล็กกว่าความยาวคลื่นของแสง และเกิดการแทรกสอดเมื่อแสงจากแหล่งกำเนิดแสง 2 แหล่งหรือมากกว่านั้นมารวมกัน
การเลี้ยวเบน
การเลี้ยวเบนเป็นปรากฏการณ์ที่คลื่นถูกเบี่ยงเบนจากเส้นทางการเคลื่อนที่เดิม เมื่อผ่านสิ่งกีดขวางที่มีขนาดเล็กกว่าความยาวคลื่นของคลื่น ตัวอย่างเช่น เมื่อแสงผ่านช่องแคบ แสงจะเลี้ยวเบนออกด้านข้าง ทำให้บริเวณหลังช่องแคบเกิดแถบสว่างและแถบมืดสลับกัน ซึ่งเรียกว่า แถบการเลี้ยวเบน
การเลี้ยวเบนของแสงสามารถอธิบายได้จาก ทฤษฎีการเลี้ยวเบนของฟรaunhofer โดยทฤษฎีนี้กล่าวว่า เมื่อแสงผ่านช่องแคบที่มีขนาดเล็กกว่าความยาวคลื่นของแสง แสงแต่ละจุดบนหน้าคลื่นของแสงจะเดินทางเป็นเส้นโค้งที่แตกต่างกัน และเมื่อแสงทั้งหมดมารวมกันบริเวณหลังช่องแคบ จะเกิดแถบสว่างและแถบมืดสลับกัน
การแทรกสอด
การแทรกสอดเป็นปรากฏการณ์ที่คลื่นสองคลื่นมารวมกัน ทำให้เกิดรูปแบบของคลื่นใหม่ขึ้น โดยรูปแบบของคลื่นใหม่ขึ้นอยู่กับความเข้มและเฟสของคลื่นทั้งสองคลื่น ตัวอย่างเช่น เมื่อแสงจากแหล่งกำเนิดแสง 2 แหล่งมารวมกัน จะเกิดแถบสว่างและแถบมืดสลับกัน ซึ่งเรียกว่า แถบการแทรกสอด
การแทรกสอดของแสงสามารถอธิบายได้จาก หลักการของฮอยเกนส์ โดยหลักการนี้กล่าวว่า หน้าคลื่นของแสงเป็นคลื่นทรงกลม และแอมพลิจูดของคลื่นแสงที่จุดใดๆ นั้นขึ้นอยู่กับผลรวมของแอมพลิจูดของคลื่นแสงจากแหล่งกำเนิดแสงทั้งสอง