ชุดศึกษาการรับรู้ทางสายตา

Time resolving capability of the human eye 

Article no:  P4070300 

ความสามารถในการแยกแยะเวลาของสายตา (time-related resolving power of the eye) ซึ่งเป็นความสามารถของดวงตาในการรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนี้

เมื่อเซลล์รับแสงในเรตินาได้รับแสง การกระตุ้นของเซลล์เหล่านี้จะใช้เวลาเล็กน้อยกว่าแสงที่มากระทบ ทำให้จำนวนสถานการณ์แสงที่ดวงตาสามารถประมวลผลได้ต่อหน่วยเวลานั้นมีจำกัด นี่คือความสามารถในการแยกแยะเวลาของสายตา

ลองนึกภาพไฟที่เปิดและปิดสลับไปมาอย่างรวดเร็ว ในตอนแรก สายตาจะสามารถรับรู้การกะพริบแยกกันได้ แต่เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น สายตาจะเริ่มเห็นเป็นแสงวูบวาบ และสุดท้าย เมื่อความเร็วสูงมากพอ สายตาจะรับรู้เป็นแสงสว่างต่อเนื่อง (การรวมตัวของแสงวูบวาบ)

ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะเซลล์รับแสงและเส้นประสาทในตาต้องการเวลาน้อยที่สุดในการประมวลผลแสงแต่ละครั้ง เมื่อความถี่ของแสงกะพริบสูงเกินความสามารถในการประมวลผล ดวงตาจะไม่สามารถแยกแยะแสงกะพริบแต่ละครั้งได้อีก ส่งผลให้เกิดการรับรู้เป็นแสงต่อเนื่อง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการแยกแยะเวลาของสายตา:

• ความเข้มของแสง: แสงจ้าทำให้ความสามารถในการแยกแยะเวลาดีขึ้น ในขณะที่แสงสลัวทำให้เลวลง
• ความซับซ้อนของภาพ: ภาพที่เรียบง่ายทำให้มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วๆ ได้ง่ายกว่าภาพที่ซับซ้อน
• อายุ: ความสามารถในการแยกแยะเวลายังลดลงตามอายุ

ความสำคัญของความสามารถในการแยกแยะเวลาของสายตา:

ความสามารถนี้มีความสำคัญในหลายกิจกรรม เช่น

• การขับรถ: ช่วยในการประเมินระยะทาง ความเร็ว และ การเคลื่อนไหวของวัตถุบนถนน
• การเล่นกีฬา: ช่วยในการติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่น ลูกบอล หรือ คู่แข่ง
• การเล่นเกม: ช่วยในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่รวดเร็ว เช่น การยิงปืน หรือ การหลบกระสุน

Tasks

1. Determine the flashing frequency of an LED at which the impression of a continuous light just occurs
2. Change the direction of incidence of the light using a perimeter
3. Determine the flicker fusion threshold of the left and right eye in relation to the direction of incidence of light stimulus and the state of adaptation of the eyes.

Learning objectives

• Perimeter
• Time-related resolving power
• Flicker fusion frequency
• Light/dark-adapted eye